สังคหวัตถุ4
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้หลักธรรมคำสอน ความลับของการใช้ชีวิตขอมนุษย์โลกมามากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหลักธรรมที่สามารถยึดถือปฏิบัติเพื่อความสันติต่อตนเอง และเพื่อนมนุษย์ได้นั่นคือ “สังคหวัตถุ 4” หากแปลตรงตัวนั้นหมายความว่าแนวทางเพื่อยึดเหนี่ยวใจคนให้เป็นหนึ่งเดียว ให้ดำรงอยู่กันด้วยความรัก และปรารถนาดีต่อกัน ซึ่งประกอบไปด้วยแนวทางแห่งความสันติวิธี “ทาน” “ปิยะวาจา” ”อัตถจริยา” ”สมานัตตา”
ทาน ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติให้พระสงฆ์ออกรับบริจาคอาหารจากชาวบ้าน ไม่ใช่เพียงเพราะอยากอิ่มท้องแต่นั่นคือแนวทางหนึ่งในการสร้าง “ทาน” ให้กับเหล่าประชาชน “ทาน” หมายถึงการแบ่งบัน การเสียสละประโยชน์ของตนแบ่งให้กับคนอื่นอื่น โดยในที่นี้ไม่ใช่การทำทานด้วยทรัพย์สิน ด้วยอาหาร เพียงอย่างเดียวเท่านั้น การให้ทานโดยการไม่โกรธแค้น อภัยให้กันและกัน ไม่จองเวรจองกรรมกันด้วยเช่นกัน หากทุกยึดถือข้อนี้ได้ความวุ่นวายทั้งหลายบนโลกจะอาจจะหมดไปก็เป็นได้
ปิยะวาจา การพูดคือการแสดงออกสื่อสารที่สำคัญ ของมนุษย์เรานั้น หากการแสดงออกสื่อสารกันด้วยน้ำใจไมตรีย่อมเป็นสิ่งที่ดี ปิยะวาจาเป็นบทหนึ่งที่บทแนวคิดแนวทางของการสื่อสารนี้ การพูดด้วยวาจาที่เป็นความจริง ซื่อสัตย์ ด้วยความไพเราะ หากได้พบกันคำพูดเช่นนี้การผูกมิตรไมตรีย่อมทำได้ไม่ยาก หรืออาจจะโกรธแค้นเป็นฟืนเป็นไฟแต่หากใช้ปิยะวาจาในการเจรจานั่นย่อมเย็นลง โดยง่ายดาย
อัตถจริยา เมื่อการแสดงออกผ่านการสื่อสารดี แล้ว การแสดงออกทางการกระทำ กิริยาก็ย่อมต้องดีไปด้วย นั่นทำประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นให้มากแต่การทำประโยชน์ของตนเองนั่นแน่นอน ย่อมจะต้องไม่ส่งผลเสีย ผลร้ายต่อผู้อื่นด้วยการเบียดเบียนผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของตนนั้นเป็นเหตุ แห่งเพศภัยต่างต่างนานาที่เกิดขึ้นโลกปัจจุบัน การไม่รู้จักพอในสิ่งที่มี การต้องการมากจนถึงขั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
สมานัตตา เมื่อปฏิบัติทุกอย่างแล้วความเจริญ ความดีงามบังเกิดและสิ่งที่สำคัญในนั่นคือการวางตนให้เสมอต้นเสมอปลายดีแล้ว ก็ควรดีให้ตลอดรอดฝั่ง หนักแน่นมั่นคงและควรวางใจผู้อื่นด้วยเช่นกัน